Translate

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ภาวะโลกร้อน – ปรากฏการณ์เรือนกระจก

เรามาดูกันว่าทำไมก๊าซเรือนกระจกจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และมันส่งผลกระทบอะไรกับโลกของเราบ้าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมาคงมีคนเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับปรากฏการณ์เรือนกระจกมาบ้างแล้ว? โจเซฟ ฟูริเออร์ เป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์เรือนกระจกเมื่อปี พ.ศ. 2367 ปรากฏการณ์เรือนกระจกนี้ทำให้โลกของเราเก็บความอบอุ่นไว้เพื่อให้สิ่งมีชีวิตในโลกดำรงค์ชีวิตอยู่ได้
แต่ในปัจจุบันประชากรของโลกเรานั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากเมื่อ 57 ปีที่แล้วมี 2,500 ล้านคน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาถึง 6,600 ล้านคน เมื่อประชากรกำลังขยายตัวมากขึ้น ทรัพยากรก็ถูกนำมาใช้มากมายเพื่อสนองความต้องการของพวกเรา ทั้งการตัดไม้เพื่อมาสร้างที่อยู่หรือเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน?เกิดอุตสาหกรรมผลิตอาหารและสินค้ามากมาย ผลกระทบของการเผาผลาญพลังงานเหล่านี้ก็คือก๊าซเรือนกระจกที่ค่อยๆจับตัวกันบนชั้นบรรยากาศของโลก ในขณะที่ป่าไม้ก็ลดลงไปอย่าง
รวดเร็ว
เมื่อก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้จับตัวหนาอยู่บนชั้นบรรยากาศ ก็ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่จะต้องระบายออกไปอย่างสมดุลเป็นไปไม่ได้ โลกเราก็เลยเปรียบเหมือนเตาอบที่อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆน้ำแข็งที่อยู่ตรงขั้วโลกและที่ธารน้ำแข็งต่างๆก็จะละลายเร็วเกินไป ปกติน้ำแข็งจะสะสมไว้ในฤดูฝน เพื่อที่จะค่อยๆละลายออกมาไหลลงเป็นแม่น้ำต่างๆ อย่างเช่นแม่น้ำคงคา 70%?เป็นน้ำที่ไหลมาจากการละลายของน้ำแข็งที่เทือกเขาหิมาลัย
เมื่อน้ำแข็งละลายเร็วเกินไปก็ส่งผลกระทบมากมายให้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก อย่างเช่นหมีขั้วโลกก็จะไม่มีน้ำแข็งไว้เหยียบ ต้องว่ายๆน้ำเป็นระยะทางไกลๆเพื่อหาอาหาร และอาหารของมันก็หายากมากขึ้นทุกที ทำให้หมีขั้วโลกนั้นใกล้จะสูญพันธุ์ ส่วนผลกระทบที่มีต่อพวกเรานั้นก็ได้เห็นกันไปมากมายแล้ว พอน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วก็ทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรเปลี่ยนไป ส่งผลกระทบกับสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงทำให้เกิดภัยพิบัติมากมาย พอน้ำในมหาสมุทรเปลี่ยนไปก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเล พวกปะการังก็จะค่อยๆตาย?แนวปะการังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ ถ้าไม่มีปะการังสัตว์น้ำมากมายก็จะสูญพันธุ์ไป?ตัวที่ยังอยู่ก็ไม่สามารถฟักไข่ได้ เพราะอุณหภูมิในน้ำไม่เหมาะสม อนาคตถ้าเรายังไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อน เราอาจจะไม่มีปลากินแล้วก็ได้??
น้ำแข็งที่ละลายอย่างรวดเร็วยังทำให้น้ำในมหาสมุทรสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เฉลี่ย 3 มิลลิเมตรต่อปี แถมแผ่นดินก็เกิดเการทรุดตัวลงมาอีกด้วย แถวชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพทุรดตัวลงมา 5-10 เซนติเมตรต่อปี ถ้าเรายังไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ต่อไปคงจะได้เล่นน้ำในกรุงเทพกัน เป็นทะเลกรุงเทพของแท้เลย
เราสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดภาวะโลกร้อนได้ โดยการหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่ทำให้เกิดก๊าซเหล่านี้ เช่น ตู้เย็นเก่าๆที่ยังใช้สารทำความเย็น CFCs อยู่,?พวกสเปรย์ และยาฆ่าแมลงที่มีสารพวกนี้?หรืออาจจะไม่บริโภคสินค้าที่ใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากจะดีต่อโลกแล้วยังดีต่อตัวเองอีกด้วย และวิธีที่ดีมากๆนั่นก็คือการช่วยกันปลูกต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณก็ทำได้ มาช่วยกันเถอะครับ คนละนิดละหน่อยเพื่อลดภาวะโลกร้อน เพื่อโลกของเรานั่นเอง?

ลดภาวะโลกร้อน

ภาวะโลกร้อน 
ผมว่ามาถึงตอนนี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินคำๆนี้ เพราะว่าตอนนี้ทุกคนก็เริ่มหันมาสนใจปัญหานี้กันมากขึ้น หลังจากที่ได้เริ่มเห็นพิษภัยของปัญหานี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ จากข่าวสารและสื่อต่างๆ
ในหนังเราอาจจะเคยเห็นว่ามีสิ่งชั่วร้ายต่างๆจากนอกโลกที่จะเข้ามาเพื่อทำลายดาวดวงนี้ อย่างเช่น มนุษย์ต่างดาวแบบใน ID4, อุกกาบาตยักษ์แบบใน Armageddon, ล่าสุดที่โด่งดังมากก็คงจะเป็นเหล่าหุ่นยนตร์จาก Transformer และยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายเลยที่ผมไม่ได้พูดถึง สิ่งชั่วร้ายในหนังเหล่านี้พยายามที่จะทำลายโลกของเรา หรือ ทำลายเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ แต่ในตอนจบก็เป็นพวกเรานี่เองที่เป็นพระเอก(นางเอกด้วย) คอยปกป้องโลกอันเป็นที่รักไว้ได้สำเร็จ
แต่ในชีวิตจริงผู้ที่เป็นสิ่งชั่วร้ายคอยทำร้ายโลกก็คือพวกเรานั่นเอง ที่ผ่านมาช่วง 10 ปีนี้โลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ป่าไม้ที่คอยเป็นปอดให้กับโลกลดน้อยลงไปมากน่าใจหาย แต่ตัวปล่อยมลพิษกลับมากขึ้นกว่าเดิมสวนทางกัน ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น เราน่าจะถามกับตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วรึยังที่จะช่วยกัน คนละนิดละหน่อยก็ยังดีเพื่อปกป้องโลกอันเป็นที่รักของเราให้สวยงามอย่างที่เคยเป็นให้คงอยู่ต่อไป
ผมเชื่อว่าหลายคนคงตั้งคำถามในใจว่า ฉันคนเดียวจะช่วยอะไรได้ หรือ แค่ฉันคนเดียวมันคงไม่ทำให้โลกร้อนขึ้นมามากนักหรอก ผมว่ามีหลายคนที่กำลังคิดแบบนี้ ให้ทุกคนลองคิดดูว่า จะลดใช้ถุงพลาสติกกันคนละถุง ใน 1 วัน ถ้าอยู่กันในบ้านซัก 3 คนก็ลดได้ 3 ถุง ถ้าเป็นแค่ในหมู่บ้านก็จะช่วยลดไปเท่าไร ลองนึกภาพดูถ้าทุกคนในหมู่บ้านเอาถุงพลาสติกมาทิ้งในบ้านคุณแค่คนละถุง คงจะเต็มบ้านไปหมด แล้วถ้าคนทั้งประเทศไทยช่วยกันลดล่ะ แล้วถ้าทั้งโลกล่ะ..เห็นไหมครับ นี่แค่ถุงพลาสติกแค่ใบเดียว ขอแค่มีใจที่จะช่วยมันมีประโยชน์ต่อโลกอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะคนละนิดละหน่อยก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยโลก แต่ทำอันที่เราสามารถทำได้ก็ดีแล้ว ค่อยๆทำไปทีละเล็กทีละน้อย อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยใช่ไหมครับ
บล็อกนี้ผมก็ได้แรงบันดาลใจมาจากการเห็นปัญหาต่างๆในสื่อทุกวันนี้ ก็อยากจะช่วยรณรงค์กันให้มากขึ้น ผมจะพยายามเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับวิธีลดภาวะโลกร้อน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างที่เกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อน แต่อาจจะไม่ได้ใช้ภาษาที่เป็นทางการเท่าไหร่นะครับ เอาแบบประมาณว่าคุยกันเล่นๆ ไม่ต้องซีเรียสมาก ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาอ่าน ขอต้อนรับสู่บล็อก GreenTheEarth.info ด้วยโพสนี้ละกันนะครับ ^^

ภาวะโลกร้อนกับก๊าซมีเทนใต้น้ำแข็ง

ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีความรุนแรงมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 23?เท่าตัวเลยทีเดียว และก็เป็นก๊าซที่มีส่วนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอยู่ในตอนนี้?เป็นข่าวร้ายที่นักวิทยาศาสตร์ได้พบก๊าซมีเทนจำนวนมากมายมหาศาลประมาณ 400,000 ล้านตัน อยู่ภายใต้น้ำแข็งทางแถบเหนือของไซบีเรีย และภาวะโลกร้อนก็กำลังทำให้น้ำแข็งละลาย จึงทำให้ก๊าซมีเทนพวกนี้กำลังค่อยๆถูกปล่อยออกมาทำลายชั้นบรรยากาศของโลกเรา
ก๊าซมีเทนพวกนี้มาจากไหน? ดร.อาจองท่านได้บอกว่า แต่ก่อนบริเวณขั้วโลกเหนือในปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งนั้น ไม่มีน้ำแข็งปกคลุม จึงมีสัตว์และพืชมากมายอาศัยอยู่บริเวณนั้น แต่เกิดเหตุการณ์ที่แกนโลกเปลี่ยนอย่างฉับพลัน จึงทำให้บริเวณนั้นกลายไปเป็นขั้วโลก และอุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว จากประมาณ 20 องศาเซลเซียสขึ้นไป กลายเป็นติดลบกว่า 50 องศาในทันที?สิ่งมีชีวิตทั้งหมดถูกแช่แข็งในทันที และเมื่อเวลาผ่านไปน้ำแข็งก็เริ่มปกคลุมหนาขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่ให้เห็นก็มีร่างของช้างแมมมอธที่มนุษย์ขุดพบ ถูกน้ำแข็งแช่ไว้จึงไม่เน่า และบางตัวยังมีหญ้าอยู่ในปาก เพราะว่าถูกแช่แข็งในทันทีขณะที่ยังกินอาหารอยู่
เมื่อซากของสิ่งมีชีวิตมากมายถูกฝังไว้ใต้น้ำแข็ง จึงทำให้เกิดก๊าซมีเทนจำนวนมากเกิดขึ้น แต่ก็ขึ้นมาสู่ผิวโลกไม่ได้เพราะว่าถูกชั้นน้ำแข็งกักเก็บไว้ แต่ปัจจุบันภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเริ่มละลาย ก๊าซมีเทนพวกนี้กำลังค่อยๆถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ และจะเป็นอีกตัวการที่เร่งให้เกิดความรุนแรงของภาวะโลกร้อนที่มากขึ้น
ถ้าพวกเรายังไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนตอนที่ยังมีเวลา มนุษย์อย่างเราอาจจะต้องตกอยู่ในสถาณการณ์เดียวกับช้างแมมมอธก็ได้ ไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีใครขุดพบคุณถูกแช่แข็งไว้ และก็ยังมีอาหารอยู่ในปากก็เป็นได้?คราวหน้าผมจะเอาเรื่องที่แกนโลกมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเพราะภาวะโลกร้อนมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ อันนี้น่ากลัวมากๆ

ภาวะโลกร้อนจะทำให้กรุงเทพจมทะเล

ภาวะโลกร้อน
            นั้นกำลังส่งผลทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายลงอย่างเร็วมาก เมื่อน้ำแข็งละลายทำให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติเป็นอย่างมากและผลกระทบโดยตรงเลยก็คือทำให้ระดับน้ำทะเลนั้นสูงขึ้นจากปกติ ทั่วโลกก็จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะประเทศที่มีความสูงจากน้ำทะเลไม่มากนัก รวมทั้งประเทศไทยของเราก็จะถูกน้ำท่วมหายไปเป็นบางส่วนด้วย ในอนาคตกรุงเทพมหานครก็จะจมไปอยู่ใต้ทะเลอย่างแน่นอน
กรุงเทพน้ำท่วม
ภาพจาก?Google Earth
จากในรูป ( เข้าไปดูรูปอย่างละเอียดได้ที่นี่ ) สีน้ำเงินนั่นคือน้ำทะเลที่จะท่วมขึ้นมา ถ้าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 7 เมตร ตอนนี้ทุกท่านคงตั้งคำถามในใจว่า ใช้เวลานานเท่าไรระดับน้ำทะเลถึงจะสูงขึ้นมาเท่านี้
ดร.อาจอง ท่านได้พูดไว้ในรายการจับเข่าคุยว่า เมื่อก่อนคำนวณกันไว้ว่าอีกประมาณ 92 ปี แต่ตอนนี้อะไรๆก็ไม่เป็นอย่างที่คิด อุณหภูมิสูงขึ้นเร็วมาก น้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่เคยคาดคิดกันไว้ จึงคิดว่าน่าจะเหลือซัก 30-40 ปี แต่แย่กว่านั้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้พบก๊าซมีเทนปริมาณมากบริเวณใกล้ๆขั้วโลกเหนือ?จึงนำเอาไปคำนวณอีกที และได้ข้อสรุปว่าคงจะเป็นอีก 30 ปีค่อนข้างแน่นอน
ถ้าพวกเราช่วยกันใช้พลังงานอย่างประหยัดในตอนนี้ และหันมาช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ก็หวังว่ามันจะช่วยชะลอเวลาให้มันนานขึ้นอีกหน่อย อนาคตเราคงต้องมาหาเมืองหลวงใหม่กัน กรุงเทพก็คงกลายเป็นแค่ความทรงจำ เพราะภาวะโลกร้อนแท้ๆ

ภาวะโลกร้อน


ภาวะโลกร้อน (Global Warming) 

หมายถึง การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศบนโลกสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอากาศบริเวณใกล้ผิวโลกและน้ำในมหาสมุทร ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นถึง 0.74 ? 0.18 องศาเซลเซียส และจากแบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศพบว่าในปี พ.ศ. 2544 – 2643 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนก็เพราะว่าก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญถ่านหินและเชื้อเพลิง รวมไปถึงสารเคมีที่มีส่วนผสมของก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ใช้ และอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ลอยขึ้นไปรวมตัวกันอยู่บนชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่ควรจะสะท้อนกลับออกไปในปริมาณที่เหมาะสม กลับถูกก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้กักเก็บไว้ ทำให้อุณหภูมิของโลกค่อยๆสูงขึ้นจากเดิม
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นก็มีให้เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ สภาพลมฟ้าอากาศที่ผิดแปลกไปจากเดิม ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุที่รุนแรง อากาศที่ร้อนผิดปกติจนมีคนเสียชีวิต รวมไปถึงโรคระบาดชนิดใหม่ๆ หรือโรคระบาดที่เคยหายไปจากโลกนี้แล้วก็กลับมาให้เราได้เห็นใหม่ และพาหะนำโรคที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ในอนาคตคาดว่าผลกระทบของภาวะโลกร้อนจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเราสามารถช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้หลายวิธี หลักๆก็เห็นจะเป็นการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัด เพราะว่าพลังงานที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้กว่าจะมาถึงให้เราได้ใช้นั้น ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนในการผลิตมากมาย และแต่ละขั้นตอนก็จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นมา เพราะฉะนั้นการลดใช้พลังงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เช่น การปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้ การใช้น้ำอย่างประหยัด การใช้จักรยานแทนรถยนต์ในการเดินทางใกล้ๆ และอื่นๆอีกมากมาย
การปลูกต้นไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าในเวลากลางวัน ต้นไม้นั้นจะช่วยหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป และหายใจออกมาเป็นก๊าซออกซิเจน เปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเราโดยแท้ แต่ทว่าปัจจุบันป่าไม้ถูกทำลายและมีจำนวนลดลงไปอย่างมาก ฉะนั้นถ้าเราทุกคนช่วยกันปลูกต้นไม้ ก็เหมือนกับช่วยเพิ่มเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเรา

การคัดแยกขยะให้ถูกวิธี

ประเภทของขยะที่ทิ้งกันอยู่ทั่วไปมี   4 ประเภท ได้แก่ 


1.ขยะย่อยสลายได้   เช่น  เศษอาหารและพืชผัก    ที่เหลือจากการรับประทาน    และการประกอบอาหาร  สามารถนำไปหมักทำปุ๋ยได้   จากปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมดมีประมาณ 46 % 
2.ขยะรีไซเคิลหรือขยะที่สามารถนำไปขายได้  เช่น  แก้ว  กระดาษ  พลาสติก  โลหะ/อโลหะ  ซึ่งจากปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด  มีอยู่ประมาณ  42  %        
3.ขยะทั่วไป  เป็นขยะที่ย่อยสลายยากและไม่คุ้มค่าในการนำไปรีไซเคิล  เช่น  ซองบะหมี่สำเร็จรูป  เปลือกลูกอม  ถุงขนม  ถุงพลาสติก 
จากปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด   ประมาณ  9 % 
4.ขยะพิษ  หรือขยะมีพิษที่ต้องเก็บรวบรวมแล้วนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี  เช่น  กระป๋องยาฆ่าแมลง  หลอดไฟ    ถ่านไฟฉาย  ซึ่งจากปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด  มีอยู่ประมาณ  3  %                                     
          
วิธีการกำจัดขยะ


      การกำจัดขยะไม่ให้มี    คงกำจัดไม่ได้   เพราะในชีวิตประจำวันเราต้องใช้สิ่งของที่เป็นเครื่องอุปโภค  บริโภค    จึงจำเป็นต้องมีของเหลือทิ้ง    วิธีที่จะทำให้ขยะไม่เป็นปัญหากับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม     ก็คือการลดปริมาณขยะการทำให้ปริมาณขยะที่จะทิ้งลดลง    อาจโดยการนำสิ่งที่เป็นขยะนั้นกลับมาใช้ประโยชน์อีกหรือการลดปริมาณการใช้และให้เหลือสิ่งที่จะทิ้งเป็นขยะจริงเพียงเท่าที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์อื่นใดได้อีก  ดังนี้
   
 1.การลดการใช้  หรือการลดขยะจากแหล่งที่เกิด  โดยพยายามหลีกเลี่ยงหรือลดการเกิดขยะหรือมลพิษที่เกิดขึ้น  เช่น  การใช้ถุงผ้าแทน
การใช้ถุงพลาสติก 
     
 2.การนำผลิตภัณฑ์มาใช้ซ้ำ  เป็นการนำวัสดุของใช้กลับมาใช้ในรูปแบบเดิมหรือนำมาซ่อมแซมใช้  หรือนำมาใช้ทำประโยชน์อื่น ๆ โดยแบ่งได้เป็น  2  ขั้นตอนคือ
                - ขั้นตอนการผลิตสินค้า  พยายามทำให้เกิดเศษวัสดุหรือของเสียน้อยที่สุด
                - ขั้นตอนการนำของใช้มาใช้ซ้ำ  เป็นการยืดอายุการใช้งานก่อนจะนำไปทิ้ง  เช่น  การนำขวดพลาสติกมาบรรจุน้ำ  การใช้กระดาษ  2 หน้า
     
 3. การนำกลับมาผลิตใหม่  เป็นการแยกวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ออกจากขยะและรวบรวมใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าขึ้นใหม่หรือเรียกว่า  รีไซเคิล
     
 4. การหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุกำจัดยาก  เช่น  กล่องโฟม  การใช้จานหรือแก้วกระดาษ  ยาฆ่าแมลง  ควรใช้สมุนไพรเป็นสารกำจัด
     
 5. การซ่อมแซมนำกลับมาใช้ใหม่     เป็นการซ่อมแซมวัสดุที่ใช้แล้ว   ที่สามารถซ่อมแซมนำกลับมาใช้ใหม่ได้  เช่น  การซ่อมแซมเสื้อผ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด  เป็นต้น
                        ผลกระทบของขยะมูลฝอยต่อสภาวะแวดล้อม         
 ขยะมูลฝอยนั้น นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของประชากร ถ้าหากไม่มีการกำจัดขยะมูลฝอยให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว    ปัญหาความสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดจากขยะมูลฝอยจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ถ้ามองกันอย่างผิวเผินแล้ว    ขยะมูลฝอยนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อมนุษย์มาก   ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อมนุษย์    ยังอยู่ในขั้นที่ไม่รุนแรงมากนัก    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงไม่ชัดเจนเท่าไร    แต่ในความเป็นจริงแล้ว     ขยะมูลฝอยจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก     และจะมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์ด้วย  ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม  ทั้งนี้เนื่องจาก 
1.ขยะมูลฝอยเป็นแหล่งอาหารและแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงนำโรค   เช่น   แมลงวัน    แมลงสาบ   ยุง ฯลฯ และเป็นที่ซุกซ่อนของหนูและ
สัตว์อื่น ๆ 
2.ขยะมูลฝอย   ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและก่อให้เกิดความรำคาญ 
3.ขยะมูลฝอยที่ทิ้งเกลื่อนกลาด ถูกลมพัดกระจัดกระจายไปตกอยู่ตามพื้น  ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสกปรก ขาดความสวยงาม เป็นที่รังเกียจแก่
ผู้พบเห็น และผู้ที่อาศัยบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ขยะมูลฝอยที่ตกอยู่หรือถูกทิ้งลงในคูคลอง หรือทางระบายน้ำ จะไปสกัดกั้นการไหลของน้ำ    ทำให้แหล่งน้ำสกปรกและเกิดการเน่าเสีย 
4.น้ำเสียที่เกิดจากกองขยะมูลฝอยที่กองทิ้งไว้      เป็นน้ำเสียที่มีความสกปรกสูงมาก   ซึ่งมีทั้งสารอินทรีย์     สารอนินทรีย์      เชื้อโรค และสารพิษต่าง ๆ เจือปนอยู่   เมื่อน้ำเสียจากกองขยะมูลฝอยไหลไปตามพื้นดินบริเวณใด    ก็จะทำให้บริเวณนั้นเกิดความสกปรก  และความ
เสื่อมโทรมของพื้นดินและอาจเปลี่ยนสภาพ   ทำให้ดินมีคุณสมบัติเป็นดินด่างหรือดินกรดได้ ในกรณีที่น้ำเสียจากกองขยะมูลฝอยไหลลง
สู่แหล่งน้ำก็จะทำให้คุณภาพน้ำเสียไป    ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำผิวดินหรือแหล่งน้ำใต้ดินก็ตาม   ล้วนเป็นอันตรายต่อผู้ใช้น้ำและสิ่งที่มี
ชีวิตที่อาศัยในแหล่งน้ำ   
5.ขยะมูลฝอย   ทำให้เกิดมลพิษแก่อากาศ    ขยะมูลฝอยที่กองทิ้งไว้ในเขตชุมชน หรือที่กองทิ้งไว้ในแหล่งกำจัดซึ่งไม่มีการฝังกลบ หรือ
ขณะที่ทำการเก็บขนโดยพาหนะที่ไม่มีการปกปิดอย่างมิดชิด   ขยะมูลฝอยเหล่านั้นส่งกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจออกมา     เศษชิ้นส่วนของ
ขยะมูลฝอยจะสามารถปลิวไปในอากาศ       ทำให้เกิดความสกปรกแก่บรรยากาศ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และความสกปรกให้กับ
บริเวณข้างเคียงได้นอกจากนี้ขยะมูลฝอยที่กองทิ้งไว้นาน ๆ      จะมีก๊าซที่เกิดจากการหมักขึ้น    ได้แก่  ก๊าซชีวภาพ   ซึ่งติดไฟหรือ
เกิดระเบิดขึ้นได้ และก๊าซไข่เน่า (ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์) ซึ่งมีกลิ่นเหม็น

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติส่วนตัว


สวัดดีจ้า


เราชื่อ ด.ญ.ทิพรัตน์  มณีนิล เลขที่ 26 ม.3/11

อายุ 14 ปี ชื่อเล่น เอิร์น ฉายา Earndie





Facebook : ทิพรัตน์ มณีนิล

นิสัย : ร่าเริ่ง สดใส เฮฮาและบ้าบอ(eh!)


ปัญหาขยะล้นโลก


สาเหตุของปัญหา

ขยะเหล่านี้สามารถนำมาขายเพื่อเพิ่มรายได้

     
1.ประชาชนยังยึดติดกับการแก้ไขปัญหาขยะแบบเดิมๆไม่มีใครยอมที่จะให้มีการสร้างโรงกำจัดขยะในบริเวณใกล้เคียงกับที่ตนเองอยู่อาศัย
2.เทศบาลไม่มีแหล่งกำจัดขยะเนื่องจากสาเหตุข้อแรก เพราะไม่รู้ว่าจะชี้แจง
ยังไงให้ประชาชนใน


พื้นที่เข้าใจจึงต้องนำขยะไปทิ้งในพื้นที่ห่างไกล
3.ทุกคนยังมองไม่เห็นคุณค่าของขยะเพราะว่ามีมูลค่าเล็กน้อย ไม่ทราบว่า
ขยะบางชนิดมีมูลค่าเมื่อแยกขยะแล้วจะไปขายที่ไหนหรือมีวิธีใดบ้างที่จะจัดการขยะได้โดยเปลี่ยนให้เป็นรายได้เข้ามา
4.เนื่องจากทางภาครัฐยังไม่มีสถานที่และวีธีการที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาขยะ มีการกำจัดขยะที่สามารถรองรับการแยกขยะได้ จึงทำให้โครงการรณรงค์ให้ประชนคัดแยกขยะ ไม่ประสบความสำเร็จ
5.การหาวิธีการจัดการขยะยังไม่ลงลึกเพียงพอในการแก้ไขปัญหา

ตามสถานที่อยู่อาศัยที่ต่างๆ บางที่สามารถกำจัดขยะได้ด้วยตัวเองบางที่ทำได้เพียงแยกขยะ ทำให้แต่ละที่จะต้องมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน
6.เทคโนโลยีที่ใช้กำจัดขยะ สามารถกำจัดขยะได้เฉพาะขยะแยก
ประเภทแต่ขยะที่เข้าสู่กระบวนการกำจัดยังไม่ได้แยกอย่างสมบูรณ์ ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวประสบปัญหาในการดำเนินการ
7.การขัดผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ฝังกลบขยะ โครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาระบบกำจัดขยะจึงถูกระงับ ถูกต่อต้านจากชุมชนโดยมีผู้มีอิทธิผลที่เสียผลประโยชน์หนุนอยู่ภายหลัง


การแก้ไขปัญหาเรื่องขยะ
1.ในชุมชนที่ห่างไกลจากตัวเมืองมีพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร เป็นชุมชนที่มีความต้องการปุ๋ยหมักจากขยะเพราะต้องใช้ในการเพาะปลูก การใช้ปุ๋ยหมักจากขยะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งน่าจะมีการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อทำโครงการปุ๋ยหมักจากขยะสด ขยะเศษผักเศษอาหาร เพื่อความยั่งยืนในการทำการเกษตร และเป็นการช่วยภาครัฐในการแก้ไขปัญหาขยะ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะ
2.จัดพื้นที่ให้มีการรับซื้อขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ตามชุมชนต่างๆ โดยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าของเก่า เริ่มต้นโดยการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงราคาที่รับซื้อของขยะชนิดต่างๆ สถานที่รับซื้อ และวันเวลาที่จะมารับซื้อเป็นประจำ วีธีการนี้จะทำให้ผู้ค้าของเก่ามีผู้ใช้บริการมากขึ้น มีปริมาณขยะที่จะนำส่งโรงงานรีไซเคิลได้มากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้นจากการแยกขยะและเก็บสะสมขยะเพื่อจำหน่าย เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในภาวะที่ข้าวของทุกอย่างมีราคา
แพง
3.บ้านที่อยู่อาศัย มีบริเวณบ้านที่เป็นสวน สามารถแยกขยะเศษอาหา
กำจัดเองได้ โดยทำบ่อฝั่งย่อยสลายเศษอาหารได้ ทำให้ขยะที่จะทำการกำจัด ไม่มีขยะเศษอาหารปนอยู่ ไม่เกิดกลิ่นเหม็น
4.ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารสูง จะไม่สามารถกำจัดขยะด้วยตัวเองได้ เนื่องจากข้อกำจัดในพื้นที่ ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารประเภทนี้ ทำได้เพียงแยกขยะระหว่างเศษอาหาร ขยะทั่วไปที่สามารถรีไซเคิลได้และไม่สามารถรีไซเคิลได้ ทางเทศบาลหากสามารถกำจัดแบบแยกประเภทได้ มีการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร อาจจะทำการเก็บขยะแบบแยกประเภท เช่น แยกสีถุง ขยะที่ย่อยสลายได้แยกถุงเป็นอีกสีหนึ่งเพื่อเทศบาลจะได้แยกจัดเก็บเพื่อไปทำปุ๋ยต่อไป ส่วนขยะทั่วไปที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ จะแยกเก็บเป็นถุงดำเพื่อนำไปคัดแยกหรือกำจัดต่อไป

ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาและการนำไปใช้
จากการศึกษาปัญหาดังกล่าว -ประโยชน์ที่ได้รับ คือ ทราบสาเหตุ และวิธีการแก้ปัญหาขยะล้นโลกอย่างถูกต้อง
-การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน คือ สามารถนำวิธีการแก้ปัญหาขยะล้นโลกจากการนำเสนอเมื่อสักครู่นี้ไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือนต่างๆได้


ต้องขอบคุณข้อมูลจาก
http://wwwbuddygirl.blogspot.com